Advantage+ เป็นกลยุทธ์การโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยี AI ที่พัฒนาโดย Meta (Facebook) เพื่อช่วยในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการจัดการแคมเปญโฆษณา โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Facebook ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโฆษณาของตน โดยอิงจากข้อมูลและพฤติกรรมการใช้งานที่เคยตั้งไว้ในอดีต ซึ่งการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยในการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโฆษณา โดย Advantage+ audience ทำให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการเรียนรู้จากข้อมูลต่าง ๆ ที่ระบบได้รับอย่างต่อเนื่อง

1. คุณสมบัติของ Advantage+ Audience
- การค้นหากลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติ: AI ของ Meta จะใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อหาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น โดยสามารถปรับเปลี่ยนตามข้อมูลที่ได้รับใหม่
- ความยืดหยุ่นในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย: ผู้ลงโฆษณาสามารถระบุข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น อายุและพื้นที่ ก่อนที่ระบบจะขยายการค้นหาไปยังกลุ่มที่กว้างขึ้น
- การเปรียบเทียบกับตัวเลือกกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ: Advantage+ audience มีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบดั้งเดิม เช่น Advantage detailed targeting หรือ Advantage lookalike
2. ประโยชน์ของ กลุ่มเป้าหมาย Advantage+
- การเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา: Advantage+ ช่วยให้การยิงโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบจะคำนวณและเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้าหรือบริการที่ต้องการโปรโมท2.
- การสร้าง Catalog Ads: Advantage+ Catalog Ads หรือ Facebook Dynamic Ads เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถสร้าง Catalog สินค้าและแสดงผลโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย AI จะเลือกสินค้าที่เหมาะสมเพื่อแสดงให้กับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน.
- การ Retargeting: ระบบยังสามารถทำการ Retargeting เพื่อแสดงสินค้าซ้ำให้กับผู้ชมที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือสินค้าของเรา ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย.
- การประหยัดเวลา: Advantage+ ช่วยลดความยุ่งยากในการสร้างและจัดการโฆษณา โดยอัตโนมัติในการอัปเดตข้อมูลสินค้าต่างๆ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดการ catalog ด้วยตนเอง.
Advantage+ มีความแตกต่างจากเครื่องมือโฆษณาอื่น ๆ ในหลายด้านที่สำคัญ ซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาดออนไลน์:
- การใช้ AI ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย: Advantage+ ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด โดยอิงจากข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ใช้ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบดั้งเดิม.
- การปรับงบประมาณแบบเรียลไทม์: ด้วยฟีเจอร์ Campaign Budget Optimization (CBO) Advantage+ ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดงบประมาณที่ระดับแคมเปญ และระบบจะกระจายงบประมาณไปยัง Ads set ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในเวลาจริง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์.
- การแสดงโฆษณาในหลายแพลตฟอร์ม: Advantage+ placements ช่วยให้โฆษณาสามารถแสดงในหลายแพลตฟอร์มที่อยู่ในเครือข่ายของ Meta เช่น Facebook, Instagram, Messenger และ Meta Audience Network โดยมีการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ.
- ความยืดหยุ่นในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย: Advantage+ audience ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายได้ โดย AI จะใช้ข้อมูลนี้ในการค้นหาผู้ชมที่กว้างขึ้น ทำให้มีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น
3. การใช้ Advantage+ audience จะต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง
เมื่อใช้งาน Advantage+ audience ในการทำโฆษณาบน Facebook Ads ควรเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้:
ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย Advantage+
- ระบุข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น อายุ พื้นที่ ในส่วน “Audience suggestion” เพื่อให้ AI ของ Meta ใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
- ควรระบุข้อมูลเฉพาะเจาะจงให้มากที่สุด เพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการ
- ไม่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีระดับโลก 20 ปีในประเทศไทย และ 21 ปีในประเทศอินโดนีเซียเมื่อใช้ Advantage+ audience
ข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญ
- เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญ เช่น การหา Conversion สูงสุด
- กำหนดงบประมาณและระยะเวลาของแคมเปญ
- เตรียมเนื้อหาและรูปแบบโฆษณาที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
ข้อมูลเกี่ยวกับ Placement
- เลือก Placement ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแคมเปญ เช่น Facebook, Instagram, Audience Network
- ใช้ Advantage+ placements เพื่อให้ระบบควบคุมการแสดงโฆษณาในทุก Placement อย่างมีประสิทธิภาพ
การเตรียมข้อมูลอย่างรอบคอบและเลือกใช้ Advantage+ audience อย่างถูกต้อง จะช่วยให้การทำโฆษณาบน Facebook Ads มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย และได้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น

4. คำถามที่ควรรู้ก่อนใช้ กลุ่มเป้าหมาย Advantage+
Advantage+ audience ใช้ได้กับแคมเปญทุกประเภทหรือไม่
Advantage+ audience สามารถใช้ได้กับแทบทุกรูปแบบแคมเปญโฆษณาบน Facebook ยกเว้นแคมเปญ remarketing ซึ่งหมายความว่าผู้ลงโฆษณาสามารถนำ Advantage+ audience มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Advantage+ audience มีผลต่อการแสดงโฆษณาใน Placement ต่างๆ หรือไม่
Advantage+ audience มีผลต่อการแสดงโฆษณาใน Placement ต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Advantage+ placements ซึ่งช่วยให้โฆษณาแสดงผลในหลายๆ ช่องทางของ Meta เช่น Facebook, Instagram, Messenger และ Audience Network อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การทำงานของ Advantage+ audience กับ Placement
- การแสดงโฆษณา: Advantage+ audience จะช่วยให้ AI ของ Meta ค้นหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและแสดงโฆษณาใน Placement ที่มีโอกาสสูงในการสร้าง Conversion โดยอัตโนมัติ.
- การควบคุมงบประมาณ: Advantage+ placements ช่วยในการจัดการงบประมาณโฆษณาแบบเรียลไทม์ ทำให้โฆษณาแสดงในตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะที่ยังคงรักษาค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับต่ำ.
- ความยืดหยุ่น: Advantage+ audience ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความกว้างขึ้น ซึ่งช่วยให้ AI สามารถเลือก Placement ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดได้
Meta Ads Manager มีเครื่องมือหลายตัวที่ช่วยในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (audiences) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา ในการเปรียบเทียบ Advantage+ Audience กับตัวเลือกอื่น ๆ ใน Meta Ads Manager เราสามารถแบ่งออกเป็นข้อแตกต่างหลัก ๆ ได้ดังนี้:
| คุณสมบัติ | Advantage+ Audience | Custom Audiences | Lookalike Audiences | Detailed Targeting |
|---|---|---|---|---|
| การสร้างกลุ่มเป้าหมาย | ใช้ AI ในการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ดีที่สุดตามวัตถุประสงค์ของแคมเปญ | สร้างจากข้อมูลลูกค้าเช่นอีเมล, เบอร์โทรศัพท์, หรือพฤติกรรมบนเว็บไซต์ | สร้างจากข้อมูลของ Custom Audiences เพื่อหากลุ่มที่คล้ายคลึง | ใช้ข้อมูลประชากร, ความสนใจ, และพฤติกรรมในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย |
| การใช้ AI | ใช้ AI เพื่อหาและปรับกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับแคมเปญ | ไม่มีการใช้ AI; สร้างจากข้อมูลที่มีอยู่ | ใช้ AI เพื่อหากลุ่มที่คล้ายกับ Custom Audiences | ไม่มีการใช้ AI; การเลือกกลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง |
| การตั้งค่า | ตั้งค่าโดยอัตโนมัติตามข้อมูลของแคมเปญและการวิเคราะห์ AI | ต้องการการตั้งค่าด้วยตนเอง เช่น อัปโหลดรายชื่อหรือตั้งค่าผ่าน Facebook Pixel | ต้องการ Custom Audiences ที่มีอยู่แล้วในการสร้าง Lookalike Audiences | ต้องการการตั้งค่าด้วยตนเอง โดยเลือกจากตัวเลือกที่มีให้ |
| ความยืดหยุ่น | ค่อนข้างยืดหยุ่นและอิงตามการวิเคราะห์ AI เพื่อลดภาระในการจัดการ | ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงตามข้อมูลที่มีอยู่ | ยืดหยุ่นในการสร้างกลุ่มใหม่จาก Custom Audiences ที่มี | ยืดหยุ่นในการเลือกกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจและพฤติกรรม |
| ความง่ายในการใช้งาน | ง่ายและรวดเร็วโดย AI จัดการให้ทั้งหมด | อาจมีความยุ่งยากในการตั้งค่าและการจัดการ | ใช้งานง่ายหากมี Custom Audiences แต่ต้องตั้งค่าเอง | ง่ายในการเลือกจากตัวเลือกที่มีให้ แต่ต้องตั้งค่าเอง |
| การเพิ่มประสิทธิภาพ | ใช้การวิเคราะห์ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ | ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของข้อมูลและการตั้งค่า | ช่วยหากลุ่มที่มีลักษณะคล้ายกันกับลูกค้าปัจจุบัน | ขึ้นอยู่กับการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม |
โดยรวมแล้ว Advantage+ Audience จะเป็นตัวเลือกที่สะดวกและมีการใช้ AI ช่วยในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแคมเปญของคุณ โดยลดความยุ่งยากในการจัดการและการตั้งค่า ในขณะที่ตัวเลือกอื่น ๆ อาจต้องการการตั้งค่าและการจัดการด้วยตนเองมากกว่า แต่สามารถให้ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่มากขึ้นได้
5. ข้อควรระวัง
- ไม่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีในระดับโลก 20 ปีในประเทศไทย และ 21 ปีในประเทศอินโดนีเซียเมื่อใช้ Advantage+ audience
1. ความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย
- ข้อควรระวัง: แม้ว่า กลุ่มเป้าหมาย Advantage+ Audience ใช้ AI ในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย แต่การเข้าใจลูกค้าของคุณเองยังคงสำคัญ ตัว AI อาจไม่สามารถจับความแตกต่างในลักษณะเฉพาะของกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการได้เสมอไป
- การจัดการ: ตรวจสอบและปรับกลุ่มเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบว่ากลุ่มที่ AI สร้างขึ้นนั้นสอดคล้องกับความต้องการของคุณ
2. ความโปร่งใสและการควบคุม
- ข้อควรระวัง: Advantage+ Audience อาจทำให้คุณมีความโปร่งใสน้อยลงเกี่ยวกับการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากการใช้ AI จะทำให้คุณไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกเลือก
- การจัดการ: ตรวจสอบผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าแคมเปญของคุณกำลังดำเนินการไปในทิศทางที่ถูกต้อง
3. การตั้งค่าที่เหมาะสม
- ข้อควรระวัง: การตั้งค่าของ Advantage+ Audience อาจต้องการข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้องและการตั้งค่าที่เหมาะสมเพื่อให้ AI สามารถทำงานได้ดีที่สุด หากข้อมูลหรือการตั้งค่าไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายที่ได้ไม่ตรงกับที่คาดหวัง
- การจัดการ: ตรวจสอบข้อมูลและการตั้งค่าเบื้องต้นของแคมเปญอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลและเป้าหมายสอดคล้องกัน
4. การติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์
- ข้อควรระวัง: แม้ว่า AI จะช่วยในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ แต่คุณยังต้องติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินประสิทธิภาพและทำการปรับปรุงตามความจำเป็น
- การจัดการ: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อประเมินผลลัพธ์ของแคมเปญและทำการปรับปรุงกลยุทธ์ตามข้อมูลที่ได้รับ
5. การจัดการงบประมาณ
- ข้อควรระวัง: การใช้ Advantage+ Audience อาจทำให้ค่าใช้จ่ายของแคมเปญสูงขึ้นหากไม่ตั้งงบประมาณให้เหมาะสม เพราะ AI อาจเพิ่มจำนวนการเข้าถึงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การจัดการ: ตั้งงบประมาณที่ชัดเจนและติดตามการใช้จ่ายอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงของการใช้จ่ายเกินงบประมาณ
การเข้าใจและจัดการข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้ กลุ่มเป้าหมาย Advantage+ Audience ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในแคมเปญโฆษณาของคุณ







